วันจันทร์ที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

กรณีศึกษาของสามก๊ก "ทัพ18หัวเมือง" พันธมิตรจอมปลอม ตอนที่ 2

     สวัสดีครับ ในตอนนี้ผมจะพูดถึงเหตุการณ์ตั้งแต่ฮัวหยงปรากฏออกมาจนถึงฮัวหยงโดนกวนอูฆ่าตายนะครับ ต้องบอกว่าเหตุการณ์นี้เป็นเหตุการณ์ที่คับขันมาก เพราะว่าเป็นสถานการณ์ที่แม่ทัพทั้งหลายทำตัวไม่ถูกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
     ก่อนอื่นเลยผมขอแนะนำตัวละครที่ชื่อว่าฮัวหยงก่อนนะครับ เพื่อเป็นประโยชน์แก่ผู้อ่านที่ไม่มีพื้นฐานสามก๊กครับ
ฮัวหยง
     ฮัวหยง(華雄) เป็นขุนพลของตั๋งโต๊ะ ที่มีฝืมือการต่อสู้เก่งมาก ซึ่งถ้าเทียบจากในทัพของตั๋งโต๊ะแล้วจะมีลิโป้เท่านั้นที่เก่งกว่า ปรากฏตัวอยู่ในเหตุการณ์ที่ออกมาเพื่อป้องกันด่านกิสุยก๋วน 

     หลังจากซุนเกี๋ยนที่เป็นทัพหน้าแพ้ ก็กลายเป็นว่าทัพของตั๋งโต๊ะก็รุกเข้ามาถึงขนาดที่ฮัวหยงมาท้ารบนอกค่ายของทัพ 18 หัวเมือง มีทหารของแม่ทัพต่างๆอาสาออกไปรบกับฮัวหยง ไว้ว่าจะเป็น ยูสิด ทหารของอ้วนสุด หรือ พัวหอง ทหารของฮันฮก เมื่อไปรบกันตัวๆกับฮัวหยง ก็โดนฆ่าตายทั้งนั้น แน่นอนว่าการที่ส่งทหารไปตายเปล่าๆเป็นสถานการณ์ไม่ดีต่อทัพฝ่าย 18 หัวเมือง แม่ทัพแต่ละคนต่างก็ไม่รู้จะยังไงกัน ถ้านึกภาพไม่ออกก็คือเหมือนเวลาคุณและเพื่อนร่วมงานคุณหาทางออกไม่เจอและมองหน้ากันเพื่อรอคนที่มีไอเดียงานพร้อมจะนำเสนอต่อทุกคน 
กวนอูอาสาตัดหัวฮัวหยง ขอบคุณมีเดีย ออฟ มีเดียส์

     ท่ามกลางสถานการ์ณที่คับขัน ก็มีพลทหารนายหนึ่งเสนอตัวอาสาเพื่อสู้กับฮัวหยง ทหารคนนั้นก็คือกวนอู น้องร่วมสาบานของเล่าปี่นั้นเอง แต่เหตุการณ์ก็ไม่เป็นใจเท่าไหร่ในตอนแรก เนื่องจากอ้วนสุดน้องของอ้วนสี้ยวแม่ทัพใหญ่ ก็ออกมาแย้งว่าการที่กวนอูเสนอตัวออกมานั้นเป็นการดูถูกเหล่าแม่ทัพและทหารที่มียศสูงกว่ามาก และพูดถึงขนาดที่ว่าจะให้ทหารนายอื่นมาไล่กวนอูออกจากกระโจมหรือห้องประชุม (เนื่องจากกวนอูเป็นทหารที่ติดตามเล่าปี่และกองซุนจ้านมาเลยมีสิทธิ์อยู่ในกระโจมหรือห้องประชุมของทัพ 18 หัวเมือง)  อย่างไรก็ตามกวนอูก็ไม่สามารถที่จะเถียงได้เพราะว่าเป็นแค่พลทหารเท่านั้นเอง แต่โชคดีที่ว่าโจโฉนั้นก็ออกมาช่วยพูดให้กวนอูได้ออกรบ
โจโฉ(ขวา) ออกมาพูดช่วยกวนอูเนื่องจากเห็นว่ากวนอูท่าทางไม่ธรรมดา ขอบคุณมีเดีย ออฟ มีเดียส์
     โจโฉได้พูดประมาณว่า ในเมื่อกวนอูกล้าอาสาก็แสดงว่าตัวเขาต้องมีดี รวมไปถึงการที่กวนอูมีบุคคลิกที่สง่าไม่เหมือนพลทหาร ก็อาจจะทำให้ฮัวหยงที่รอทัพ 18 หัวเมืองส่งทหารมาสู้ดูไม่ออกก็เป็นได้  และสุดท้ายโจโฉก็ปิดด้วยว่าถ้าเขาแพ้ก็ค่อยมารับโทษ ถือเป็นการปิดการเจรจาที่ดีที่สุดในความคิดของผม
กวนอู(ซ้าย) ปฏิเสธเหล้าอุ่นจาก โจโฉ(ขวา) ขอบคุณมีเดีย ออฟ มีเดียส์
    ก่อนกวนอูจะออกรบโจโฉก็ให้เหล้าอุ่นเพื่อสร้างความฮึกเหิม แต่กวนอูกลับปฏิเสธและออกไปรบ และได้พูดว่า ขอฝากไว้ก่อนเดี๋ยวจะกลับมาดื่ม สุดท้ายเขาก็รบกับฮัวหยงชนะ และได้นำหัวของฮัวหยงกลับมาเป็นหลักฐานให้แม่ทัพผู้อื่นดู แน่นอนว่าอ้วนสุดรับไม่ได้ที่กวนอูทำงานของเขาสำเร็จ 

     ในมุมของผมนะครับ ผมถือว่าในสถานการณ์ที่คับขันแบบเกิดขึ้นในองค์กร เราควรเปิดรับทุกความคิดเห็นจากคนทุกคน ไม่ใช่เพียงคณะกรรมการในบริษัทเท่านั้นที่สามารถออกความคิดเห็นได้ ถ้าเปรียบกับการที่ฝ่ายทัพ 18 หัวเมืองไม่รู้ว่าจะส่งใครรบต่อไปดี แต่ก็มีกวนอูเป็นคนอาสา สำหรับผมนั้นถือว่าเป็นเรื่องที่ดี เพราะคนที่กล้าอาสาต่อหน้าแม่ทัพแสดงว่าต้องเจ๋งจริง บอกได้เลยว่ายศหรือตำแหน่งก็ไม่สำคัญแล้วครับในเหตุการณ์แบบนั้น เพราะคนที่เป็นแม่ทัพเองยังไม่กล้าจะไปออกรบเลยครับ ซ้ำยังมีแม่ทัพที่แย่อย่างอ้วนสุดอีกด้วย ยูสิดที่เป็นทหารตนเองส่งไปก็ตาย ยังจะกล้ามากีดกันคนที่เขาอาสาและออกมาด้วยใจ ถ้าผมเป็นคนในเหตุการณ์นั้นก็อยากถามเหมือนกันว่าทำไมอ้วนสุดไม่ออกไปรบเองหละ ถ้าคุณกล้าพูดสบประมาทกวนอูขนาดนั้น สำหรับการที่อ้วนสุดเป็นคนจิตใจคับแคบแถมยังโลภมากก็ทำให้เป้าหมายในชีวิตไปได้ไม่ไกลเท่านั้นเองครับ

     ในเมื่อมีผู้นำที่แย่แต่ก็ยังมีผู้นำที่ดีนะครับ โจโฉนั้นเอง การที่โจโฉพูดช่วยกวนอูนั้นก็ทำให้เห็นถึงความเป็นผู้นำที่ดีแล้วครับ เป็นหนึ่งในคุณสมบัติของ CEO ที่ดีเลยครับ นั่นคือการมองคนที่คุณค่าและความสามารถ ไม่ใช่เพียงตำแหน่งหรือว่ายศในตอนนั้น สิ่งสำคัญของผู้นำขององค์กรต่างๆที่ดี คือต้องเป็นคนเปิดใจ และรับสิ่งต่างๆและการเปลี่ยนแปลงได้เสมอครับ การโจโฉออกมาช่วยพูดก็เป็นบุญคุณของโจโฉสำหรับกวนอูเลย

     แต่ถ้าเรามองในมุมของกวนอูเหตุการณ์นี้เป็นที่แจ้งเกิดของกวนอูจริงๆ เพราะสถานการณ์สร้างวีรบุรุษ วีรบุรุษจะเกิดจากสถานการณ์ครับ เป็นตัวอย่างที่ดีของคำพูดนี้เลยครับ สามารถนำเป็นตัวอย่างเผื่อวันหนึ่งเราอาจจะเป็นฮีโร่เองได้เลยครับ ถ้าเรารู้จักพลิกวิกฤตเป็นโอกาสเพื่อให้เราได้เกิดและเป็ฯที่รู้จักในวงการต่างๆครับ อย่างเช่น การที่จะพรีเซนต์ตัวเอง จะให้ดีที่สุดก็คือเมื่อเกิดเหตุการณ์ที่ไม่มีทางออก การทำธุรกิจก็เหมือนกันครับเราต้องรู้จักนำวิกฤตไม่ว่าจะเป็น วิกฤตทางการเงิน และอื่นๆ มาทำให้เป็นโอกาสในการสร้างยอดขายได้ตลอดครับ โดยแต่ละบริษัทก็จะมีวิธีแตกต่างออกไป

สุดท้ายนี้ผมอยากฝากว่า การเป็นคนใจแคบนั้นทำอะไรก็ไม่สามารถไปได้ไกล เพราะฟังแต่ตนเองและพวกพ้อง ไม่เปิดรับสิ่งใหม่ๆเข้ามา ซึ่งถ้าไปศึกษาเพิ่มเติมในส่วนประวัติของอ้วนสุด ก็จะพบว่าตายอย่างทรมานและไม่มีเกียรติเลย และอย่างสุดท้ายคือเวลาที่เราจะทำอะไรให้มันเป็นที่รู้จัก มันต้องมีคนเห็นจำนวนมากๆ และจะให้ดีก็คือเราต้องมีสิ่งที่คนอื่นไม่มี และเป็นสิ่งที่ต้องการของพวกเขาในตอนนั้น

*case นี้เป็นกรณีศึกษาของการบริหารและการวางตัวในองค์กรนะครับ ส่วนด้านอื่นๆจะตามมาในเหตุการณ์ต่อๆไปครับ

1 ความคิดเห็น:

สามก๊กวิทยา กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ อ่านสนุกมาก จากที่อ่านดูแสดงว่าเทียบเรื่องจากสามก๊กต้นฉบับ เพราะพูดถึงอ้วนสุดในตอนต่อว่ากวนอู ซึ่งถ้าเป็นในสามก๊กฉบับเจ้าพระยาพระคลัง (หน) จะตัดบทของอ้วนสุดออกและมีแต่อ้วนเสี้ยวเท่านั้นที่พูด
ส่วนเรื่องการวางตัวในองค์กร การเป็นคนเก่งกล้าแบบกวนอูนั้นคือเรื่องที่ถูกต้อง แต่เวลาจะเสนออะไรต้องอย่าลืมดูว่า ในที่นั้นมีคนแบบโจโฉ กำกับอยู่ด้วยหรือเปล่า เพราะถ้าวันนั้นไม่มีโจโฉอยู่ด้วย กวนอูคงเสียหน้าและกลายแค่เป็นตัวตลก ให้พวกแม่ทัพไม่เอาไหนหัวเราะเยาะ